ติดต่อคุณชิน 084-3589848 Email : russameeprom@gmail.com

 

ค้นหาแบบตรงตัว  อยู่ตำแหน่งใดก็ได้
 
รหัสวัตถุมงคล :
339
ชื่อวัตถุมงคล :
เหรียญ "มหามงคลเก้า" หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ จ.ปทุมธานี
กลุ่มวัตถุมงคล :
พระเครื่องภาคกลาง
รายละเอียดวัตถุมงคล :
เหรียญ "มหามงคลเก้า" สุดยอดเหรียญดีในรอบทศวรรษของหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ หรือ หลวงพ่อสาลีโข แห่ง พุทธอุทยานธรรมโกศล ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

นำข่าวมาบอกแฟนแฟนก่อนเลยว่าเหรียญนี้เป็นสุดยอดเหรียญดีอีกชิ้นหนึ่งของท่าน หากไม่พูดถึง "เหรียญขี่สิงห์" รุ่นแรกและ "เหรียญสีหบรรลือ" แล้ว "มหามงคลเก้า" จะเป็นเหรียญที่ดีที่สุดในชีวิตท่านไปในทันทีครับ

เพราะหลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างมาก ด้วยการจารแผ่นทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก 50 บาท เพียรจารเพียรเสกจนครบทุกแผ่นแล้วนำไปหลอม แล้วนำมารีดใหม่ วนอยู่อย่างนี้ 3 ครั้ง 3 หน อีกทั้งแผ่นเงินและแผ่นทองแดงน้ำหนักนับ 10 กิโลกรัม ท่านก็จารพระยันต์ต่าง ๆ จนครบถ้วน และยังมีชนวนเก่าแผ่นยันต์เก่าต่าง ๆ อีกมาก

หลวงพ่อทำชนวนและสะสมอยู่อย่างนั้นถึง 2-3 ปี จึงได้นำไปหลอมแล้วปั๊มเหรียญ

ระหว่างสะสมชนวนนั้นก็ให้นายช่างแหลมสิงห์ ดิษฐพันธุ์ ปั้นต้นแบบไว้ด้วยเทคนิคเดียวกับกองกษาปณ์ด้วยการปั้นใหญ่แล้วหมุนเหวี่ยงเป็นวัน ๆ จนเล็กเหลือขนาดที่ต้องการ จากนั้นก็ปั๊มเหรียญออกมา

ด้วยเหรียญทุกเนื้อเกือบเป็นชนวนล้วน จึงได้เหรียญออกมาไม่มากนัก และหลวงพ่อทุ่มเทจารอักขระวิเศษที่ท่านแตกฉานบรรลุถึงลงไป เพื่อเพิ่มความเป็นมหามงคลให้กับเหรียญทุกเนื้อ ท่านตั้งใจทำเหรียญให้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 พรรษา หลวงพ่อจึงเฉลิมนามเหรียญนี้ว่า

"เหรียญมหามงคลเก้า"

เนื้อทองคำสร้าง 19 เหรียญ เหรียญละ 1 แสนบาท
เนื้อเงินสร้าง 109 เหรียญ เหรียญละ 1 หมื่นบาท
เนื้อทองแดงสร้าง 1,000 เหรียญ เหรียญละ 1,999 บาท

เราท่านอาจจะคิดว่าแพง แต่ทราบไหมครับว่าเพียงค่าบล๊อคก็ร่วม 3 หมื่นแล้ว การรีดโลหะนำไปหลอมใหม่รีดแล้วทำใหม่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมิใช่น้อยเช่นกัน หลวงพ่อบอกว่าท่านตั้งใจทำของให้ดี ให้เป็นมรดกขลังคู่โลกคู่พระศาสนา ไม่ได้ทำขยะโลกออกมาให้คนเบื่อหน่าย ของท่านจะดีหรือไม่ นำไปใช้ก็รู้เอง ท่านรับรอง

หลวงพ่อตั้งใจจารให้ได้ทุกเหรียญ ซึ่งนับเป็นความอุตสาหะอย่างยิ่งของท่านครับ เพราะท่านก็เพิ่งไปผ่านิ้วล๊อคมา ท่านสั่งช่างไม่ให้รมน้ำตาลหรือรมดำเหรียญทองแดง เพื่อท่านจะได้จารได้สะดวก เพราะถ้ารมแล้วเวลาจารมันจะหนืด ทำให้สะดุดแล้วจิตท่านก็ไม่ราบรื่น ท่านจึงไม่ให้รมน้ำยาใด ๆ ทั้งสิ้น

เห็นความวิริยะของท่านเช่นนี้แล้วผมก็อยากเชิญชวนท่านที่มีกำลังทรัพย์พอ ให้เก็บรักษาของดีอย่างนี้ไว้ ทั้งศิลปะการออกแบบ ทั้งวิทยาคุณ ทั้งศักยภาพในองค์หลวงพ่อ ท่านได้ทุ่มเทลงไปในเหรียญรุ่นนี้หมดสิ้น หลวงพ่อบอกว่าเป็นครั้งแรกของสำนัก ตั้งแต่ท่านโลดแล่นอยู่บนถนนสายครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักแก่คนทั้งประเทศตั้งแต่อายุเพียง 23 ปี

แต่นี่คือครั้งแรกที่ท่านออกเหรีญรูปของหลวงปู่เผือก ปรมาจารย์ของท่าน ผนึกรวมกับรูปของท่านอยู่ในเหรียญเดียวกัน

ท่านย้ำว่าท่านทุ่มเทเต็มที่ คนที่มีเหรียญนี้ติดตัวบูชาอยู่ คือหลวงปู่เผือกกับท่านจะไปด้วย ไปให้ความคุ้มครองช่วยเหลือชนิดไปไหนไปกัน

ปัจจัยทั้งหมดก็นำไปซื้อดินถมที่วัด เนื่องจากพอหน้าน้ำ น้ำก็จะท่วมวัดเสมอ ๆ ทุกปี จึงต้องขยับเสนาสนะขึ้นที่สูง โดยเฉพาะกุฏิของหลวงพ่อ

จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีศรัทธาและกำลังทรัพย์พอเพียง บูชาของดีไว้คุ้มกายและได้บุญใหญ่อีกด้วย

มหามงคลเก้า เนื้อทองแดง ด้านหลังท่านก็ลงอักขระไว้อย่างวิจิตร มีทั้งยันต์ นะปถมัง เฑาะว์มหาพรหม อักขระแม่ธาตุทั้งสี่ และนะวิเศษอีกมากมายหลายตัว

ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปหลวงปู่เผือกและหลวงพ่อสาลีโข (สมภพ เตชปุญโญ) ในลักษณะหันข้างพิจารณาธรรม ปรากฏรอยจารมากเป็นพิเศษ เหตุเพราะเนื้อเงินเห็นได้ชัดโลหะอ่อนนิ่มกว่าทองแดง จารง่าย ทำให้หลวงพ่อเมตตาลงจารในเหรียญเงินมากอักขระยิ่งกว่าทองแดง ที่สังฆาฏิหลวงปู่เผือกลงด้วยยันต์พระอรหันต์อุดปืนและยันต์ใบพัด สังฆาฏิหลวงพ่อลงด้วยธาตุสี่และนะปถมัง ใบหน้าท่านเองลงด้วยพุวนและพุทโธขึ้นยอด ท้ายทอยท่านลงด้วยเฑาะว์มหาพรหม พื้นเหรียญลงด้วยนะปิด นะป้อง นะล้อม นะกัน

ด้วยความที่เหรียญมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 5 ซ.ม. ทำให้มีพื้นที่พอที่ท่านจะจารได้อย่างไม่ลำบากสายตานัก ขอบเหรียญท่านทำอย่างที่เรียกว่า "ขอบสตางค์" ทำให้การปั้นแบบยากยิ่งขึ้นไปอีก ราคาก็สูงตาม เพราะเป็นงานที่มักมีแต่กองกษาปณ์เท่านั้นที่ทำได้ แต่เป็นผลดีที่ทำแบบขอบสตางค์ คือ เมื่อมีคนคิดปลอม ก็จะทำได้ยากมากเพราะลักษณะของฟันเฟืองนั้นเล็กมาก เมื่อถอดแบบออกไปก็จะไม่ติดคมชัด ทำให้แยกแยะได้ไม่ยากเลย

ด้านหลังเหรียญเนื้อเงิน รูปนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค ให้ผลเป็นมหาอำนาจปราบปรามไพรี เพราะพระนารายณ์เป็นเทพเจ้าซึ่งอวตารลงมาเพื่อปราบยุคเข็ญ เมื่อเสด็จที่ใดก็ประทับพญาครุฑซึ่งเป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์สวรรค์ที่ทรงฤทธานุภาพมาก ครั้นมาด้วยกันก็แสดงให้เห็นถึงอิทธิที่จะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ใด การที่ครุฑยุดนาคเป็นนิมิตว่า ตบะเดชะในตัวเราจะทำให้มีชัยเหนือศัตรู สามารถยับยั้งสิ่งไม่ดีที่เป็นพิษเป็นภัยแก่เราได้

ล้อมรอบรูปองค์มหาอำนาจทั้งสามด้วยพระคาถาอิติปิโสแปดด้านหรืออิติปิโสแปดทิศ ซึ่งมีอานุภาพในทางกันภัยที่จะเกิดจากทิศทั้งแปด ด้วยพระพุทธานุภาพของพระพุทธองค์อันเริ่มจากบูรพาที่ว่าด้วย อิระชาคะตะระสา เป็นต้น

พื้นเหรียญหลวงพ่อจารอักขระไว้มากมายหลายตัว และแต่ละเหรียญก็มักไม่ซ้ำกัน หากตัวพื้นฐานก็จะเหมือนกันทุกอันไป แต่ตัวปลีกย่อยจะขึ้นอยู่กับอารมณ์จิตและฤกษ์ยาม

เพราะหลวงพ่อมักจารอักขระในเวลามงคลเท่านั้น เช่น เมื่อฤกษ์เป็นคงกระพัน ท่านก็จารนะปถมังหรือนะทรหด หรือไม่ก็ยันต์พระอรหันต์อุดปืน เมื่อฤกษ์ในวันนั้นปรากฏเป็นฤกษ์แห่งโชคลาภ ท่านก็ลงหัวใจพระสิวลี นะมหาเมตตา พุวน เป็นต้น คือลงอักขระให้สัมผัสกับฤกษ์ยามอันเป็นมงคล

ไม่ใช่ฤกษ์เป็นคงกระพันก็ดันไปนั่งลงเมตตาอยู่นั่นแล้ว หรือฤกษ์เป็นโภคทรัพย์เงินทอง เช่น มหัทธโนฤกษ์ก็ผ่าลงมหาอุดหยุดปืน เลยทีนี้ก็หยุดหมด โชคลาภจะเข้ามา เงินทองจะไหลมาก็หยุดหมด อุดหมด ปิดหมด แบบนี้เรียกว่าคนไม่รู้เรื่อง

ลักษณะนี้ไม่มีในหลวงพ่อสมภพ

ท่านเป็นผู้รู้ที่รู้จริง แตกฉานจริง เมื่อทำท่านก็ทำจริง ด้วยความตั้งใจจริง และจากเวลาที่ผ่านมานับแล้วกว่า 40 ปี

ประสบการณ์ก็เป็นเครื่องชี้วัดอย่างดี

ว่าของ ๆ ท่านเมื่อนำไปบูชาแล้วก็ได้ประสบการณ์ที่ดีจริง

อยากทราบอะไรมากกว่านี้ ก็ต้องลองอาราธนามงคลวัตถุของท่านดูล่ะครับ เอาตนเองเป็นพยานนั่นแหละดีกว่าใครพูดตั้งร้อยคนพันคน
ราคาวัตถุมงคล :
บาท
สถานะ :

 

  ขั้นตอนการชำระเงิน

      หลังจากทำการสั่งซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ( เสร็จสมบูรณ์ ) ท่านสามารถเลือกธนาคารใดก็ได้ดังต่อไปนี้ เพื่อทำการโอนเงิน

ธนาคาร
สาขา
ชื่อบัญชี
เลขที่บัญชี
ประเภทบัญชี
      กสิกรไทย
แหลมทอง บางแสน
นายชวลิต สีดาจิตร์
699-226-8121
ออมทรัพย์
      ไทยพาณิชย์
แหลมทอง บางแสน
นายชวลิต สีดาจิตร์
405-197-1266
ออมทรัพย์